fbpx

ลูกพูดช้า เดินช้า แค่พัฒนาช้าชั่วคราว หรือควรรีบพบผู้เชี่ยวชาญ?

ในช่วงวัยแรกเกิดถึง 5 ปี ถือเป็น “ช่วงทองของพัฒนาการเด็ก” ที่สมองและร่างกายกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว หากพ่อแม่สังเกตว่าลูกยังพูดไม่ได้ หรือเดินช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน สิ่งแรกที่มักเกิดขึ้นคือ ความสงสัยและความกังวลว่า “ลูกแค่ช้าชั่วคราว หรือกำลังมีปัญหาด้านพัฒนาการ?”

พัฒนาการของเด็กปกติควรเป็นอย่างไร?

แม้เด็กแต่ละคนจะมีความเร็วในการพัฒนาไม่เท่ากัน แต่โดยทั่วไปมีเกณฑ์ที่ช่วยให้พ่อแม่ประเมินได้เบื้องต้น เช่น

ช่วงอายุพัฒนาการด้านภาษา (โดยเฉลี่ย)พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว (โดยเฉลี่ย)
6 เดือนส่งเสียงอ้อแอ้ หัวเราะตอบสนองพลิกตัวได้เอง
9 เดือนเลียนเสียง พูดพยางค์ซ้ำนั่งได้เอง เริ่มคลาน
12 เดือนพูดคำแรก เช่น “แม่”, “ไป”ยืนได้เอง เดินก้าวแรก
18 เดือนพูดได้ 10 คำขึ้นไปเดินได้คล่อง ปีนขึ้นลงเอง
2 ปีพูดประโยคสั้น 2 คำวิ่งได้ เดินขึ้นบันไดพร้อมจับราว
3 ปีพูดประโยค 3-4 คำ สื่อสารได้กระโดดสองเท้า ขี่จักรยานสามล้อได้

(ข้อมูลจาก American Academy of Pediatrics, 2020)

จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกควรพบผู้เชี่ยวชาญ?

หากลูกมีพัฒนาการ “ช้ากว่าเกณฑ์” อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหาก…

  • อายุครบ 18 เดือนแล้วยังไม่พูด
  • อายุครบ 2 ขวบแล้วยังพูดประโยคไม่ได้
  • อายุ 1 ขวบแล้วยังยืนหรือเดินเองไม่ได้
  • พูดไม่ชัดหรือมีปัญหาการเข้าใจคำสั่ง
  • ไม่สบตา ไม่ตอบสนองต่อชื่อ หรือไม่เล่นกับผู้อื่น

แนะนำให้พบผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก เพื่อประเมินอย่างละเอียด เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของความล่าช้าทางพัฒนาการ หรือความผิดปกติ เช่น ภาวะออทิสติก (Autism Spectrum Disorder), ความล่าช้าด้านภาษา (Language Delay), หรือความผิดปกติด้านการเคลื่อนไหว (Motor Delay)

ทำไม “รอให้ถึงวัย” อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดี?

คำว่า “เดี๋ยวก็ดีขึ้น” เป็นความหวังที่พ่อแม่หลายคนมี แต่ในความเป็นจริง การรออาจทำให้ช่วงเวลาทองในการกระตุ้นพัฒนาการหลุดลอยไป

งานวิจัยพบว่า สมองของเด็กจะพัฒนาได้ดีที่สุดในช่วง 0-5 ปี และยิ่งได้รับการกระตุ้นเร็วเท่าไร โอกาสในการพัฒนาเต็มศักยภาพยิ่งมากขึ้น (Shonkoff & Phillips, 2000)

พบผู้เชี่ยวชาญเพื่ออะไร?

การประเมินพัฒนาการโดยผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักกิจกรรมบำบัด (Occupational Therapist), นักแก้ไขการพูด หรือจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น จะช่วยวิเคราะห์สาเหตุที่ลูกช้า พร้อมเสนอแนวทางฝึกกระตุ้นอย่างเหมาะสมและตรงจุด

ในหลายกรณี เด็กสามารถพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจนหลังได้รับการฝึกอย่างต่อเนื่อง

สรุป: อย่ารอให้ “ช้า” กลายเป็น “สาย”

หากลูกของคุณพูดช้า เดินช้า หรือมีพัฒนาการล่าช้าในด้านใดด้านหนึ่ง แม้เพียงเล็กน้อย การได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกอย่างถูกต้อง และเริ่มต้นช่วยเหลือเขาได้อย่างทันท่วงที

เพราะทุกก้าวของพัฒนาการลูก มีความหมายมากกว่าที่คิด 💛

แหล่งอ้างอิง:

  • American Academy of Pediatrics. (2020). Developmental Milestones. https://www.healthychildren.org
  • Shonkoff, J. P., & Phillips, D. A. (2000). From Neurons to Neighborhoods: The Science of Early Childhood Development. National Academies Press.
  • Centers for Disease Control and Prevention (CDC). (2023). Learn the Signs. Act Early. https://www.cdc.gov/ncbddd/actearly